เทคนิคจัดหน้าร้านตลาดนัดให้ปัง

ในปัจจุบันเทรนด์การกินเที่ยวตลาดนัดกำลังมาแรง เพราะเรามักจะได้เห็นการรีวิวการเดินตลาดนัดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าในตลาดนัดจะต้องมีร้านค้าที่ขายของคล้ายๆ กันหรือเหมือนกันอยู่ ถ้าเราเป็นแม่ค้า จะมีวิธีการอย่างไรที่จะช่วยดึงดูดใจลูกค้าให้แวะเข้ามาดูที่ร้านเราได้ วันนี้จึงได้รวมเอาเทคนิคการจัดหน้าร้านตลาดนัดอย่างไรให้ปัง ใครเห็นก็อยากแวะมาชมกันเลย 1.เลือกทำเลที่จะตั้งร้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญไม่อยากให้ละเลยไป เทคนิคสำหรับการเลือกทำเลที่ตั้งร้านควรเลือกเกาะกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกันไว้ เพื่อที่ว่าเวลาลูกค้าเดินเลือกซื้อสินค้า พวกเขาจะมีเวลาในการตัดสินใจว่าจะเลือกร้านไหนดี ยกตัวอย่างง่ายๆ หากคุณขายเสื้อผ้าแฟชั่น ก็ควรวางตำแหน่งที่ตั้งร้านไว้ในกลุ่มสินค้าเสื้อผ้าด้วยกัน ไม่ควรแยกไปอยู่คนเดียวโดดๆ ไกลสายตาผู้คน หรืออยู่ปะปนกับร้านอาหาร เป็นต้น 2.จัดสินค้าให้มีเยอะๆ  เพราะว่าการจัดหน้าร้านให้มีสินค้าเยอะๆ นั้นจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีตัวเลือกที่เยอะกว่า ต้องวางสินค้าให้ลูกค้ารู้ด้วยว่าขายอะไร ถ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกิ๊ฟช้อปยิ่งจัดเต็มได้ยิ่งดี แต่ถ้าเป็นของทรงคุณค่า เช่น ภาพวาด หรือของหายาก อาจไม่ต้องจัดเต็มพื้นที่มากนักก็ได้ 3.แต่งร้านแบบเล่นสี  การเลือกใช้สีเป็นสิ่งที่จะทำให้ร้านของคุณนั้นโดดเด่นขึ้นมาได้ เช่น หากร้านขายเสื้อก็อาจใช้การไล่เรียงเฉดสสี จากโทนอ่อนไปหาเข้ม เพื่อให้สวยสะดุดตาและง่ายต่อการเลือกซื้อของลูกค้า หรือถ้าเป็นร้านขายนาฬิกาอาจใช้ผ้าปูสีดำ และทำฉากหลังให้สินค้าดูมีค่ามีราคาขึ้นมานั่นเอง 4.กำหนดธีมของร้านให้ชัดเจนก็น่าสนใจ การเลือกธีมร้านเจาะจงไปเลยว่าต้องการแบบไหน เลือกคาแรคเตอร์ที่จะบ่งบอกความเป็นร้านของเราใส่ลงไป เช่น น่ารักสดใส เถื่อนดิบฮาร์ดคอ หรือจะมาแนวศิลปะ ก็ยังได้ เหนือสิ่งอื่นใดถ้าเลือกการจัดร้านแบบนี้คือคุณต้องมั่นใจอย่าแคร์สายตาคนอื่นอย่าคิดว่าจะมีคนไม่ชอบ…

Continue Reading....

เทคนิคการขายที่รับรองว่าได้ลูกค้าแน่นอน

สำหรับการค้าขายแล้ว เทคนิคการขายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะช่วยให้ยอดขายของคุณนั้นพุ่งสูงได้มากกว่าที่คิด ถ้าหากว่าคุณเป็นคนขายแต่ไม่รู้วิธีการขายที่ถูกต้อง โอกาสที่จะได้ยอดขายที่ดีนั้นก็คงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก ยิ่งยุคดิจิทัลแบบนี้ก็ยิ่งมี่การแข่งขันที่สูงมากๆ ดังนั้นวันนี้เราจะมาบอกเทคนิคกรขายที่รับรองว่าได้ลูกค้าแน่นอน 1.กริยา ท่าทาง คำพูด  การเป็นผู้ขายนอกจากบุคลิกภาพจะสำคัญแล้ว กริยา ท่าทาง และคำพูดก็สำคัญไม่แพ้กัน สิ่งที่ง่ายทีสุดคือทำให้สุภาพหรือเน้นเป็นกันเองแต่ต้องไม่ล่วงเกิน  ไม่ดูหยาบคายกับลูกค้ามากนัก สีหน้าต้องมีอัธยาศัยดีเสมอ แม้จะบอกว่ากำลังหงุดหงิด เครียดกับอะไรก็ตาม แต่เมื่อคุณยังขายของอยู่ลูกค้าย่อมต้องการได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในทุกรูปแบบ 2.รู้วิธีเปิดและปิดการขายอย่างถูกต้อง หลายคนไม่รู้วิธีปิดการขายอย่างถูกต้องควรเปิดแบบไหน ใช้คำพูดอะไรเพื่อไม่เปิดโอกาสให้กับลูกค้าได้ไปมองร้านอื่น ๆ เทคนิคนี้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เลือกใช้คำถามปิดการขายอย่างถูกต้องโดยอาศัยคำพูดที่ลูกค้าปฏิเสธได้ยาก เช่น สรุปซื้อสีไหนดีคะ, ตกลงอยากได้รุ่นไหนมากกว่ากันคะ เป็นต้น 3.อย่าเน้นแต่การขายอย่างเดียว แน่นอนว่าการขายนั้นจะทำให้คุณได้ลูกค้า แต่การเน้นขายมากจนเกินไปจะทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดและไม่อยากกลับมาซื้อซ้ำได้ ดังนั้นให้เน้นการขายตามความเหมาะสม เช่น จังหวะนี้ลูกค้ากำลังสอบถามราคาก็บอกตามจริงและอาจเสริมโปรโมชั่นบางตัวที่ดูน่าสนใจ แต่ถ้าลูกค้าบางคนเข้ามาแล้วยังไม่ได้ถามอะไรก็อาจปล่อยให้เลือกไปก่อนไม่ต้องรีบหรือเร่งอะไร  4.เข้าใจธรรมชาติของลูกค้า ผู้ขายควรจะเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าด้วยว่าแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน  เช่น ลูกค้าบางคนขอบมองหาคนขายแสดงว่าต้องการคำแนะนำแบบนี้ให้เข้าไปช่วยเหลือได้เลย ลูกค้าจะประทับใจมาก แต่ถ้าลูกค้าบางคนเดินนิ่ง ๆ ดูนั่นนี่ไปเรื่อยอาจแค่สอบถามเบื้องต้น หากลูกค้าไม่ต้องการข้อมูลก็ปล่อยให้เดินเอง เพราะเขาอาจชอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า เป็นต้น 5.ไม่เกี่ยงรับงาน หลายๆ…

Continue Reading....

การวางแผนการตลาดที่ดี ต้องมีอะไรบ้าง

การตลาด เป็นกระบวนการสื่อสารคุณค่าผลิตภัณฑ์หรือการบริหารไปยังลูกค้า ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปะแห่งกายขายสินค้า ซึ่งเป็นกิจกรรมบริษัทเพื่อส่งเสริมการซื้อขายของสินค้าและบริการของธุรกิจ รวมถึงการทำโฆษณา การขาย การส่งสินค้าให้ลูกค้า ทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้าธุรกิจ วันนี้เรามาดูการวางแผนการตลาดที่ดีกันเลย  1.ตั้งเป้าหมายทางการตลาด เป็นเหมายเป็นเหมือนะงที่ปักรอเราอยู่บนยอดเขาที่จะพิชิต ซึ่งในระหว่างการเดินนั้นเราจะต้องโฟกัสที่เป้าหมายเสมอ การตลาดก็เช่นเดียวกัน ต้องตั้งเป้าหมายทางการตลาดขึ้นมาก่อน เพื่อให้ธุรกิจรู้ว่าเราต้องการอะไร และจะได้นำเป้าหมายมาแตกรายละเอียด ว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อการดำเนินแผนการไปจนจบได้นั่นเอง 2.รู้จักตัวเองและรู้จักตลาด ในการทำการตลาดที่ครอบคลุมและดีนั้นจะต้องรู้จักตัวเองและรู้จักตลาดให้ดีก่อน หากเป็นธุรกิจใหม่ที่เพิ่งมีสินค้า/บริการออกมา ธุรกิจควรกำหนดและนิยามจุดอ่อน-จุดแข็ง ควรวิเคราะห์โอกาสและอุปสรรคของตัวเองให้ออกที่จะช่วยให้ห็นภาพการทำธุรกิจ เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว เราก็ควรศึกษาเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เรากำลังจะขายนั้นมีอุปสงค์ในตลาดมากแค่ไหน แล้วคู่แข่งหรืออุปทานในตลาดมีมากแค่ไหน นอกจากนี้ ยังควรวิเคราะห์คู่แข่งให้แตก และพยายามหาจุดสร้างความแตกต่างให้ธุรกิจด้วย 3.กำหนดกลุ่มเป้าหมาย นอกจากรู้จักตัวเอง รู้จักตลาดแล้วคุณต้องรู้จักลูกค้าด้วย ว่าใครเป็นลูกค้าของเรา แต่เท่านั้นยังไม่พอ ธุรกิจควรจะเจาะจงลงไปให้ชัดถึงลักษณะของลูกค้าที่ธุรกิจต้องการขายพวกเขา เขาชอบอะไร เสพสื่อผ่านช่องทางไหน แล้วธุรกิจของเราจะเข้าหาเข้าไปหาได้อย่างไรบ้างด้วย 4.เลือกใช้กลยุทธ์ทางการตลาด กลยุทธ์การตลาดนั้นก็มีอยู่มากมายหลากหลาย เพียงแค่เลือกใช้ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของคุณและเลือกใช้ให้ถูกจังหวะที่เหลือก็ขึ้นอยู่ความคิดสร้างสรรค์และการพลิกแพลงของคุณ ที่จะเป็นปัจจัยเสริมให้การตลาดของคุณนั้นมีประสิทธิภาพ และดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น  5.เลือกสื่อหรือช่องทางในการทำการตลาด การที่เรารู้ว่าผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ไหน เราก็เพียงตามไปหาเขาที่นั่น ซึ่งก็คือการเลือกใช้สื่อของเราสื่อสารออกไป โดยช่องทางนั้นก็มีหลากหลายช่องทางมาก และผู้บริโภคเองก็อยู่กระจัดกระจายกันออกไป เช่น…

Continue Reading....